top of page
ค้นหา

เกจิดัง “หลวงพ่อคง”สุดยอดวัตถุมงคลขลังพลังมาแรงเต็มพระผู้มีอาคมขลังเมืองจันทบุรี

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 21 ก.ย. 2564
  • ยาว 1 นาที

เกจิดัง “หลวงพ่อคง”สุดยอด วัตถุมงคลขลังพลังมาแรงเต็ม พระผู้มีอาคมขลังเมืองจันทบุรี ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ น้อมรำลึก 119 ปี ชาตกาล หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หรือ พระครูอาคมวิสุทธิ์(พระผู้มีอาคมขลัง)เมืองจันทบุรี หลวงพ่อคง สุวัณโณ วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ย.2564 น้อมรำลึกครบ 119 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อคง สุวัณโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในเรื่องการสร้างวัตถุมงคลรูปแบบเสือ จนได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งเขาสมิง” วัตถุมงคลดังในยุคหลังปี พ.ศ.2500 อาทิ พระพิมพ์พระพุทธ พิมพ์พระสมเด็จ, พระขุนแผน, พระนางพญา, พระกริ่ง-ชัยวัฒน์, พระยอดธง, เหรียญพระพุทธ, เหรียญรูปเหมือน, เสือขนาดห้อยคอ, ตะกรุด-ผ้ายันต์-ปลัดขิก, พระปิดตาและเครื่องรางของขลังในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ วัตถุมงคลมงคลเน้นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย และกล่าวขานกันเสมอว่า สูงยิ่งในพุทธคุณรอบด้าน ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2532 เวลาประมาณ 10.15 น.รวม สิริอายุ 87 ปี พรรษา 67 สำหรับประวัติ เป็นชาวหมู่บ้านตาพราย ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด (เขตติดต่อ ต.วังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี) เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 20 ก.ย.2445 บิดา-มารดา ชื่อ นายส้องและนางโอง ฑีฆายุ ท่านเป็นบุตรคนหัวปี มีพี่น้องชายหญิงอีก 11 คน ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนาทำไร่ วัยเด็กเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดชมพูทราย จบชั้นประถมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2462 และช่วยทางบ้านหาสมุนไพรของป่าออกมาขาย เมื่ออายุ 21 ปี อุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดชมพูทราย อ.เขาสมิง จ.ตราด มีพระอธิการผูก วัดสลัก จ.ตราด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “สุวัณโณ” แปลว่า ผู้มีผิวพรรณงามดุจทองคำ หลังบวชแล้ว ท่านได้ขยันหมั่นเพียรเล่าเรียนพระธรรมวินัย พระไตรปิฎก ประเพณีทางศาสนา 12 เดือน ตลอดจนวิทยาคมโบราณต่างๆ ที่ตกทอดกันมาจากครูบาอาจารย์ชาวเขมร และจาก พระภิกษุผู้คงแก่เรียนชาวพื้นบ้าน พร้อมกันนั้น ได้เข้าเรียนนักธรรมที่สำนักเรียนวัดสลัก กระทั่งสอบได้นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอกตามลำดับ เมื่อปีพ.ศ.2500 ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วไป พิธีพุทธาภิเษกต่างๆ จะต้องนิมนต์ไปร่วมนั่งปรกแทบทุกงาน พ.ศ.2503 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี พ.ศ.2513 รับตำแหน่งพระอธิการ พ.ศ.2522 รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูอาคมวิสุทธิ์ หลวงพ่อคง นับเป็นผู้คงแก่เรียนองค์หนึ่ง โดยมีครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้มากมาย ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส อาทิ หลวงปู่จง ปู่แท้ๆ ของท่าน, หลวงพ่อเม วัดมาบไผ่, หลวงพ่ออุก-หลวงพ่อเจาะ วัดโปร่งเซ็น, หลวงพ่ออ่ำ วัดสะตอน้อย, หลวงพ่อหริ่ง, พ่อครูเต๋า ฆราวาสจอมคาถา, พ่อครูตาสด ฆราวาสจอมขมังเวท, หลวงคีรีเขตต์ ตาแท้ๆ ของท่าน รับราชการดูแลหัวเมืองตราด-จันทบุรี ผู้มีคาถาอาคมขลัง วิชาที่ได้ร่ำเรียนมีหลายแขนง ทั้งคาถาหัวใจ 108 คาถาคงกระพันชาตรีต่างๆ การเขียนอักขระเลขยันต์ภาษาขอม การเขียนลบผงอิทธิเจ ปถมัง การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง วิชาแพทย์แผนโบราณ วิชาการหาสมุนไพรของป่า การหาว่านคงกระพัน การสักยันต์ วิชาย่นระยะทาง การเดินจงกรม และการฝึกจิตฝึกสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน เข้านิโรธสมาบัติ ซึ่งปฏิบัติไป ตามขั้นตอนตามที่พระอาจารย์หลายรูปได้ สั่งสอนมารวมทั้งสุดยอดวิชา “เสือสมิง” ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่ชาวบ้านป่านิยมเรียนกัน เพื่อให้เข้าป่าโดยปลอดภัย นำความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ช่วยเหลือสงเคราะห์ชาวบ้าน ทั้งในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และสร้างวัตถุมงคลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ปกติท่านเป็นคนร่างเล็ก ผิวดำ ใจดี พูดคำยิ้มคำ แต่รู้ทันคำพูดและรู้เจตนา ทั้งนี้ ผู้ที่ได้พบเห็นในวัตรปฏิบัติ และปฏิปทาของท่าน ต่างรู้สึกประทับใจและเกิดความศรัทธาอย่างสูง เพราะเปี่ยมไปด้วยอัธยาศัยไมตรี และความเมตตาปรานี คติธรรมที่มักตอกย้ำให้ลูกศิษย์นำไปขบคิด คือ “ทำดี ซื่อสัตย์ จริงใจ มีอยู่แล้วในตัวทุกคน …ทำได้ ทำจริง ชีวิตรอดปลอดภัย” ท่านเป็นหนึ่งในพระดีศรีเมืองจันท์ที่สร้างพระเครื่อง เครื่องรางของขลังเปี่ยมด้วยพุทธคุณ และเป็นที่นิยมของชาวภาคตะวันออก และผู้ศรัทธาทั่วไป โดยท่านเริ่มสร้างแจกชาวบ้านราวปี พ.ศ.2484 ซึ่งตรงกับช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ครั้งนั้นประเทศไทยจับมือกับญี่ปุ่นขับไล่ชาวอังกฤษและฝรั่งเศสให้ออกนอกประเทศ และส่งทหารหาญไปยังประเทศกัมพูชา ทวงกรรมสิทธิ์ในดินแดนเสียมราฐ ศรีโสภณ และพระตะบอง เหล่าทหารกล้าที่ถูกเกณฑ์ไปร่วมรบ ต่างพกของดีของขลังของท่านไปเป็นขวัญกำลังใจ ประกอบด้วย ตะกรุดหนังเสือ และตะกรุดเนื้อโลหะต่างๆ, ผ้าประเจียด, ผ้ายันต์ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังสักยันต์แคล้วคลาดคงกระพันด้วย





 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page