หลวงปู่ทอง ปทีโป (พระครูทีปการโกศล)เกจิดังวัดหนองเรือ จ.ศรีสะเกษ-อายุ78ปี เจ้าตำรับลงคาถา"#พลิกชีวิต
- อ.อนุชา ทรงศิริ
- 20 ก.ค. 2564
- ยาว 1 นาที
หลวงปู่ทอง ปทีโป (พระครูทีปการโกศล) เกจิดังวัดหนองเรือ จ.ศรีสะเกษ-อายุ78ปี เจ้าตำรับลงคาถา"#พลิกชีวิตเปลี่ยนชะตา"
ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอ พระดีเกจิดังที่กราบไหว้ได้สนิทใจอีกรูป... "หลวงปู่ทอง ปทีโป "(พระครูทีปการโกศล) เจ้าอาวาสวัดหนองเรือ อ.กันทรา รมย์ จ.ศรี สะเกษ ศิษย์สืบสายวิชาอริยสงฆ์-ฆราวาสขมังเวทย์ดินแดนอีสานใต้
ปัจจุบันอายุ 78 ปี 57 พรรษา ท่านเกิดในสกุล "บุญรินทร์" เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ที่บ้านเหม้า หมู่ที่ 2 ต.ละทาย อ.กันทรา รมย์ จ.ศรีสะเกษ (ไม่ปรากฏบ้านเลขที่) บิดาชื่อ "นายวันดี" มารดาชื่อ "นางหนู" ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นบุตรชายคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน
วัยเยาว์เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนบ้านเหม้า ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก็ได้มาประกอบอาชีพเกษตร กรรมช่วยเหลือครอบครัว
เนื่องจากท่านเป็นคนที่รักในความสันโดษ และชอบศึกษาวิชาอาคมเป็นอย่างมาก เมื่ออายุครบบวชจึงเข้าอุปสมบทในปีพ.ศ.2507 ที่วัดเหม้า ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มี"หลวงปู่นวล กลฺญาโณ" วัดบ้านเหม้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า "ปทีโป"
หลังอุปสมบทได้เริ่มศึกษาสรรพวิชาและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเรื่อยมาจนถึง 7 พรรษา ในปีพ.ศ. 2514 ท่านได้ตัดสินใจออกเดินธุดงค์เพื่อเสาะแสวงหาสรรพวิชาและปฏิบัติธรรมเพิ่มเติม โดยมุ่งหน้าสู่ประเทศลาว มีจุดหมายปลายทางที่วัดมหาพุทธวงศาป่าหลวง นครเวียงจันทร์ ขณะนั้นมี"พระอาจารย์ ชารี ขันติโก" ซึ่งเป็นคนไทย ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส สืบต่อแทนพระอาจารย์ใหญ่ มหาปาน อานันโท ที่มรณภาพลง
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า พระอริยะสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ ณ วัดมหาพุทธวงศาป่าหลวงล้วนเป็นศิษย์ของหลวงปู่ใหญ่สมเด็จลุน ปรมาจารย์ใหญ่แห่งประเทศลาว โดยหลวงปู่ทองท่านได้ฝึกวิชากรรมฐาน และจำพรรษาที่วัดแห่งนี้เป็นเวลา 1 พรรษา
ในปี พ.ศ. 2515 หลวงปู่ทองได้กราบลาพระอาจารย์ ชารี ขันติโก และพระอริยสงฆ์ที่วัดมหาพุทธวงศาป่าหลวง ผู้เป็นอาจารย์ของท่านเดินทางกลับมาประเทศไทย ด้วยเหตุเพราะชาวบ้านหนองเรือ ได้กราบนิมนต์ขอให้ท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองเรือ
เมื่อหลวงปู่ทองกลับมายังมาตุภูมิบ้านเกิด และรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองเรือแล้ว ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ ก็ยังมีใจศรัทธาในการศึกษาพระธรรมคำสอนและศึกษาพระเวทย์อย่างต่อเนื่อง
ครูบาอาจารย์ และผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า ทั้งพระอริยสงฆ์ และฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาพระเวทย์เพิ่มเติม มีดังนี้
1.หลวงปู่นวล กลฺญาโณ วัดบ้านเหม้า อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ (พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ทอง) พระอริยสงฆ์เจ้า ผู้ศึกษาวิชาสายหลวงปู่ใหญ่สมเด็จลุน ซึ่งเก่งในด้าน"วัวกระทิง" ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงปู่ทองจนหมดสิ้น พร้อมทั้งมอบตำราพระเวทย์ให้ท่านด้วย
2.หลวงปู่เพ็ง วัดบ้านละทาย พระอริยะสงฆ์เจ้า ผู้เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่อ้วน โสภโณ แห่งวัดบ้านโนนค้อ โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชาปราบผี ไล่พรายจากหลวงปู่เพ็ง และสรรพวิชาอื่นๆ
3.พ่อใหญ่ดี ปลงใจ ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์แห่ง อ.ขุขันธ์ โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชา มนตรามหาเสน่ห์จากพ่อใหญ่ดีจนหมดสิ้น
4.พ่อใหญ่ผาง ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์ แห่งบ้านผักแพรว อ.กันทรารมย์ โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชา คงกระพันชาตรี จากพ่อใหญ่ผาง จนหมดสิ้น
5.พ่อใหญ่หวั่น ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์ แห่งบ้านเปือย อ.กัน ทรารมย์ ซึ่งพ่อใหญ่หวั่นนี้เป็นคนที่แก่กล้าพระเวทย์ในทุกๆด้าน โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชาในทุกแขนงจากพ่อใหญ่หวั่นจนหมดสิ้น
6.พ่อใหญ่ทอง ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและแก่กล้าในพระเวทย์ แห่ง อ.ห้วยทับทัน พ่อใหญ่ทองนี้เป็นอีกคนที่แก่กล้าพระเวทย์ในทุกๆด้าน โดยหลวงปู่ทองได้ศึกษาวิชาในทุกแขนงจากพ่อใหญ่ทอง จนหมดสิ้นเช่นกัน
7.สุดท้ายหลวงปู่ทองได้ยกครูอาจารย์ถึง 25 ท่านเเละศึกษาวิชาพระเวทย์จนได้สำเร็จแตก ฉานวิชาที่เรียนมาทุกแขนงจนเป็นที่เลื่อม ใสของบรรดาลูกศิษย์ทั้งชาวไทยเเละต่างชาติ
โดยเฉพาะด้านการลงพระคาถา "#พลิกชีวิตเปลี่ยนชะตา" ที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ต่างบอกว่า ถ้าได้มาลงพระคาถากับหลวงปู่ทอง ปทีโป เเล้วชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจนผิดหูผิดตาทุกๆคน

Comments